Insight คณะ IMBA มอ National เมืองเกาสง ‘NKUST’ ที่หารีวิวยากมากกกกกก โดย ‘น้องโบว์’ ลูกศิษย์พี่โค้ชเทอม Spring 2025
- Taiwan Scholarship Hunter Official
- 28 มิ.ย.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สวัสดีจ้าน้องๆ ทุกคน วันนี้พี่โค้ชจะพามารู้จักคณะ MBA ของ NKUST โดย 'น้องโบ' ลูกศิษย์ของพี่โค้ชเองงงงง แต่ก่อนเข้าเรื่อง พี่โค้ชขอเล่าประวัติคร่าวๆ ของ NKUST ให้ทุกคนได้รู้จักกันก่อนนะ
.
ทำความรู้จัก NKUST
National Kaohsiung University of Science and Technology หรือ NKUST รู้จักกันในชื่อไทยเก๋ๆ ว่า มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเกาสง เป็นมหา'ลัยชื่อดังที่ตั้งอยู่ในเมืองเกาสง ทางตอนใต้ของไต้หวัน ซึ่งเป็นการควบรวมระหว่างสามมหา'ลัยยักษ์ใหญ่ อันได้แก่
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเกาสง (เก่งด้านเทคนิคระดับเทพ)
มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาสงแห่งที่หนึ่ง (เน้นวิจัยและนวัตกรรม)
มหาวิทยาลัยการเดินเรือเกาสง (มือโปรเรื่องทะเลและเทคโนโลยีการเดินเรือ)
.
เมื่อรวมกันกลายเป็น NKUST – มหาวิทยาลัยที่ไม่ใช่แค่ “ใหญ่” แต่ยัง แน่นด้วยความรู้ และ คอนเนคชั่นระดับโลก!

Q1: สวัสดีค่าน้องโบว์ ก่อนอื่นแนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักหน่อยน้าาาา
Bow: สวัสดีค่า ชื่อ โบว์ สวภัทร์ ศรีสุขทวีรัตน์ค่ะ ป.ตรีจบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะเศรษฐศาตร์ค่ะ พอจบมาเราก็ทำงานด้าน Digital Marketing กะ Key Account Management อยู่ที่ E-Commerce Platform อยู่ที่นึงในไทย รวมๆ ประมาณ 6 ปี (รู้สึกแก่เลย ถถถ) ก่อนที่จะมาเรียนต่อโทที่ IMBA NKUST ค่ะ
Q2: น้องโบว์เรียนที่คณะ MBA ที่ National Kaohsiung University of Science and Technology มาครบ 1 เทอมแล้ว รู้สึกยังไงบ้างคะ
Bow: เอาจริงเรารู้สึกว่าบรรยากาศมีความคล้าย มธ.รังสิตอยู่นะ แต่ที่นู้นจะเป็นฟิวชนบทมากกว่า 5555 ด้วยความที่ MBA NKUST ต้องไปอยู่ที่ First Campus (NKUST มีหลาย campus ถ้าอยากมาเรียนให้เช็คดีๆก่อนนะ 5555 ) ซึ่งถ้าใครชอบฟิวแบบสงบ ฉันอยากปิกวิเวก First Campus ตอบโจทย์คุณค่ะ จะได้เดินขึ้นเขาลงเขาไปเรียนจุกๆ 55555
. แต่ถ้าฟังว่าชนบทอย่าเพิ่งตกใจไป คือนั่งบัสออกไปมันก้ยังมีของกิน มี Carrefour อยู่ ส่วนเรื่องเรียนส่วนตัวเรามองว่าเรียนง่ายกว่าป.ตรีนะ อาจจะด้วยความที่เวลาเรียนหลักๆ คือ Professor เค้าก็จะเน้นถามความคิดเห็น หรือว่าเป็นก็จับกลุ่มกันทำงาน ไม่ค่อยมีสอบ และส่วนใหญ่จะเป็น Presentation แล้วก็เป็นพรีกรุ๊ปด้วยเพราะงั้นก็จะฟิวช่วยๆ กันมากกว่าค่ะ
Q3: บรรยากาศชองการเรียนเป็นยังไง
Bow: บรรยากาศการเรียนหรอ เราว่าก็ชิวๆ นะ ด้วยความที่เรามาเทอม Spring ละคนที่มาเทอมเดียวกันมีแค่ 5 คนเอง 555 เราก็จะได้เรียนกะเพื่อนเทอม Fall ด้วย ซึ่งเราโชคดีที่เพื่อนๆ น่ารักกันมากๆ
. เรื่องการเรียนก็ส่วนใหญ่แล้วแต่วิชา แล้วแต่ Professor นะ ไม่ได้มี Lecture อะไรมาก ส่วนใหญ่อาจารย์จะเอา Case Study มาสอน แล้วก็เน้น Discussion มากกว่า
. ส่วนเรื่องเพื่อนๆ ร่วมคลาสก็ส่วนใหญ่จะเป็นเอเชีย หลักๆ คือ Vietnam เลยเรียกได้ว่าเค้ามี Community กันที่นี่เลยแหละ 5555 ที่เหลือก็จะมีประปราย ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย เทอมเรามีคนไทย 2 คน 5555 (ก็คือเด็กพี่โค้ชทั้งคู่) มีเพื่อนยุโรปด้วย แต่ส่วนใหญ่จะเป็น Exchange Student ไม่ก็เป็น Double Degree อะไรประมาณนั้นมากกว่าค่ะ

Q4: มีวิชาไหนที่เด็ดๆ ที่เป็น a must ว่าต้องลงเรียนนะ ห้ามพลาดเด็ดขาด !!
Bow: เราว่าส่วนใหญ่คนเลือกเรียนวิชาที่ได้เกรดดี 55555 อยากแนะนำวิชา Stat 5555 ฟังแล้วอย่าเพิ่งกรี๊ดใส่หน้าฉัน ครั้งแรกที่ฉันได้ยินฉันก็กรี๊ด แต่คือมันง่ายเว้ยแก ถ้าเข้าไปแล้วตั้งใจเรียน มั่นใจว่าคะแนนไม่ต่ำกว่า 98 (เต็ม100) มันง่าย แค่ตอนเรียนอาจจะน่าเบื่อๆ หน่อย 5555 แล้วก็อีกวิชา เอาแบบสาระ นี่มองว่าวิชา International Business คือเลิศ!เพราะวิชานี้จะได้เรียนกะอาจารย์ 3 ท่าน เอาจริงคือการเรียนป.โทนี่ว่าอาจารย์เขาจะไม่เน้นยัดความรู้ให้เราแต่เขาจะเน้นให้เราคิดวิเคราะห์มากกว่า เพราะงั้น ถ้าใครเรียนสายธุรกิมาแล้วเราว่าเนื้อหามันน่าจะเดิมๆ แต่สิ่งที่แกจะได้คือแกจะคิดได้นอกกรอบมากขึ้นแล้วก็ได้เห็นมุมมองของเพื่อนต่างชาติที่เขาอาจจะมองคนละมุมกะเรา พอฟังแล้วแกอาจจะแบบ เออหว่ะ มันใช่แต่แกคิดไม่ถึงไรงี้

Q5: ที่นี่ต้องทำ Thesis มั้ยคะ และต้องเริ่มทำช่วงเทอมไหน
Bow: ต้องทำ Thesis ค่า ตอนเทอม 2 จะเริ่มเลือกอาจารย์ที่ปรึกษากันแล้วละ แล้วก็จะต้องคุยเรื่องหัวข้อที่เราอยากจะทำ ส่วนใหญ่นักเรียนจะ matching กับอาจารย์ที่มีความรู้ในเรื่องที่เราต้องการจะทำ เช่น ถ้าเราอยากทำเกี่ยวกับการตลาด เราก็ไปเลือกอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางการตลาดอะไรประมาณนั้น เริ่มช่วงไหนหรอ เท่าที่ถามเพื่อนๆ มาถ้าเราเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาได้แล้ว (และอาจารย์ตกลงรับเรา 555 เพราะอาจารย์บางท่านเค้าอาจจะยุ่งมากๆ และไม่รับเป็นที่ปรึกษาก็ได้ หรืออาจารย์บางท่านอาจจะมีโควต้าว่า เทอมนึงรับแค่ 1-2 คนเท่านั้น) ก็สามารถเริ่มทำ Thesis ได้เลยจ้า
Q6: Expectation vs Reality ของเราต่อคณะ MBA ที่ NKUST เป็นยังไงบ้าง พอมาเรียนแล้วเข้าใจอะไรชัดขึ้นมั้ย แล้ววางแผน career path ไว้ยังไงบ้าง
Bow: เรียกว่าเป็น Expectation ต่อการเรียนต่อปริญญาโทในต่างประเทศของเราดีกว่า ตอนแรกเรามองว่ามันน่าจะต้องยากมากๆ แน่ๆ โดยส่วนตัวไม่ได้เป็นคนที่เรียนเก่งอะไร แล้วก็ไม่ได้เป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะมาเราค่อนข้างที่จะกังวลมากๆว่าเราจะเรียนได้มั๊ย เพราะเราก็ไม่เคยเรียน Inter มาก่อน ต้องไปเรียนในจุดที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และยังต้องสื่อสารกับคนอื่นเป็นภาษาอังกฤษอีก (กลัวคุยแล้วเค้าฟังเราไม่รู้เรื่อง 5555) แต่พอมาจริงๆ แล้ว คือความโชคดีของการไม่ได้ไปเรียนต่อยุโรปไรงี้ก็คือ เกือบทุกคนภาษาอังกฤษสำหรับเขาก็ไม่ได้เป็น Mother Language เพราะงั้นต่างคนก็ต่างต้องพยายามเข้าใจกันและกัน ในตอนแรกมันอาจจะประหม่าๆในการพูดแหละว่าเราจะพูดถูกแกรมม่ามั๊ยอะไรมั๊ย แต่สุดท้ายแล้วมันจะไหลลื่นไปเอง
Q7: เม้ามอยไลฟ์สไตล์ชีวิตในแคมปัส NKUST หน่อยจ้าาาาา
Bow: เอาจริงตามที่เม้าไปใน Q2 นิดนึงละว่า ถ้าเป็น NKUST first campus ชีวิตจะค่อนข้างชนบทนิดนึง 5555 เพราะ campus มันอยู่เขต Nanzi ซึ่งมันจะเป็นเขตตอนบนของเกาสงซึ่งก็คือจะอยู่ห่างจากเมืองหลักของเกาสง (เรียกว่าห่างมาก เพราะถ้าอยากเข้าเมืองแกต้องนั่งรถบัสแล้วต่อ KMRT เข้าเมืองประมาณ 30- 40 นาทีได้) เราอยู่หอในประมาณ 4 เดือนได้ ( จริงๆต้องอยู่ 5 แต่เราย้ายออกก่อน) จริงๆเราว่าหอก้ไม่ได้แย่ แต่แกต้องนอนกับคนแปลกหน้า ห้องนอนนอนกัน 4 คน สำหรับที่แคมปัสนี้เราไม่ได้เป็นเตียง2 ชั้น (ส่วนตัวเรามองว่าดี กลัวแผ่นดินไหว ไหวขึ้นมาคนนอนข้างบนมันหลอน 555) ส่วนห้องน้ำ มีห้องน้ำในห้องนอน แต่เวลาอาบน้ำต้องออกไปอาบรวมข้างนอก แล้วก็ในทุกเดือนจะมีเวรทำความสะอาด 2 ครั้ง/ห้อง ต่อเดือนสลับกันไป ส่วนเรื่องกิจกรรมมหาลัยมีเรื่อยๆนะ แต่เราไม่ค่อยได้ไป 5555 มหาลัยเขาจะมีส่งเมลมาให้ตลอด แต่เราไม่เคยไปเลย ส่วนใหญ่เราไปกะเพื่อนในคณะ ออกไปทำนู้นนี่มากกว่า แหะๆ แต่ที่มหาลัยเค้าก็มีพวกชมรมไรงี้อยู่นะ ใครสนใจจะทำอะไรก็ไปจอยได้ การเดินทางในมหาลัย ส่วนใหญ่เราเน้นเดินอ่ะ มีรถบัสเข้าไปในมหาลัยนะ แล้วก็มี Ubike ใครรู้สึกว่าการเดินมันลำบากเกินก็ Ubike ได้แต่ first campus มันขึ้นเขาอะดิ ส่วนตัวนี่ปั่นไม่ไหวอ่ะ เลือกเดินกะบัสละกัน 5555

Q8: ถ้าไม่ได้ภาษาจีนเลย จะใช้ชีวิตยากมั้ยคะ ได้ยินมาว่าถ้าไม่ใช่ไทเป คน Local แทบจะไม่ได้ภาษาอังกฤษเลย จริงมั้ยนะ
Bow: จริง 555555555 เอาจริงขนาดเป็น นศ.บางคนยังไม่คุยภาษาอังกฤษเลย ถามว่าใช้ชีวิตอยากมั๊ยส่วนตัวเราคิดว่าน่าจะยากในระดับนึง เพราะอย่างส่วนตัวเราพอได้งูๆ ปลาๆ นิดหน่อยเราก็ว่ายาก ถถถ โดยเฉพาะแบบถ้าเริ่มอยากไปใช้ชีวิตนอกมหาลัย เช่น หาหอพักนอกไรงี้ เปิด Bank Account ไรงี้ บางทีต้องใช้ Google Translate คุยเพราะคนที่นู้นหลักๆ เขาใช้ภาษาจีนเลยง่ะ แต่ว่าข้อดีคือได้ฝึกภาษาจีนไปด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากได้จากการมาเรียนที่นี่อยู่แล้ว
Q9: อยากฝากอะไรถึงน้องๆ รุ่นถัดไปที่มีความสนใจเรียนต่อคณะนี้บ้าง
Bow: อยากฝากว่าถ้าใครอยากเรียนต่อให้รีบมาเลย เวลาไม่เคยรอใคร ส่วนตัวนี่ใช้เวลาในการตัดสินใจนานมากว่าจะมาเรียนต่อที่ไต้หวันดีมั๊ยใดๆ แต่พอมาแล้วก็รู้สึกว่ารู้งี้เรารีบมาดีกว่า เราว่าทุกคนมีความฝันมีแพลนอยู่แล้วหล่ะว่าอยากจะทำอะไร คำแนะนำ ประสบการณ์ของเรามันเป็นแค่ส่วนนึงในการตัดสินใจเท่านั้นแหละ ถ้าใครคิดว่าตรงนี้แมชกับชีวิต แมชกับความฝันก็ให้รีบมาเลยจ้า IMBA NKUST ต้อนรับน้องๆค่าา อยากให้คนไทยมาเรียนเยอะๆ
หากน้อง ๆ คนไหนอยากเป็นนักเรียนทุน แบบน้องโบ หรือรุ่นพี่ All Star ทั้งระดับ ป.ตรี/ โท/ เอก ที่ไต้หวัน เปิดรับสมัครปีละ 2 ครั้ง พี่โค้ชแนะนำให้เตรียมตัวล่วงหน้า 3-6 เดือน เพื่อให้มงลงกอดทุนกันนะคะ เพราะไม่มีความสำเร็จไหนไม่ใช้เวลา และความพยายาม(อย่างตรงจุด) น๊า
รอบ Fall (เปิดเทอม กันยายน) - เปิดรับสมัคร พฤศจิกายน ถึง มีนาคม ของทุกปี
รอบ Spring (เปิดเทอม กุมภาพันธ์) - เปิดรับสมัคร มิถุนายน ถึง ตุลาคม ของทุกปี (เปิดรับบางคณะ เฉพาะระดับ ป.โท/เอก)
สามารถทักไลน์ @twscholarhunter หรือคลิกเพื่อแอดไลน์ เพื่อปรึกษากับพี่โค้ชฟรีก่อน และดูแพ็คเกจเรียนต่อขอทุนไต้หวัน คลิกเลย





