'พี่แนน' พาเจาะลึกคณะน้องใหม่ Sustainability Leadership แห่ง National Central University ในฐานะนักเรียนทุนเต็มจำนวนคนไทยรุ่นแรก จากทีมพี่โค้ช! (ตอนที่ 1)
- Taiwan Scholarship Hunter Official
- 28 ม.ค.
- ยาว 3 นาที
อัปเดตเมื่อ 2 ก.พ.

ต้องบอกว่ากระแส 'ด้านความยั่งยืน' หรือ 'Sustainability' นั้นมาแรงมากๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีน้องๆ หลายคนเริ่มให้ความสนใจ และมองเห็นโอกาสต่อยอดทางการงาน และธุรกิจมากมาย และเดินหน้าเข้ามาปรึกษาพี่โค้ชว่ามีที่ไหนในไต้หวันเปิดสอนบ้างงงง ซึ่งวันนี้พี่โค้ชเลยขอใช้โอกาสนี้ ในการแบ่งปันข้อมูล Insight จากนักเรียนทุนไต้หวัน #ศิษย์พี่ดค้ช ที่มาเรียนปริญญาโท คณะ Sustainability Leadership ณ National Central University เทอม Fall' 2024 แบบเปิดหมด ทุกซอกทุกมุม ไม่มีหมกเม็ด!
พี่โค้ช: แนะนำตัวกันหน่อยจ้ะ
พี่แนน: สวัสดีค่ะ ชื่อแนน อัญทิชาดา จารุเสน จบคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น จากมหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ ประสานมิตร และเคยได้ทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มหาลัยยามากุจิ ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปีค่ะ ก่อนที่พี่จะตัดสินใจมาเรียนที่ไต้หวัน พี่ทำงานในแวดวงอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์และอิเล็คทรอนิกสัญชาติญี่ปุ่นมาก่อน หน้าที่ของพี่คือเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่น สื่อสารให้คนไทยและผู้บริหารชาวญี่ปุ่นเข้าใจ รวมทั้งเคยเป็น Sales ทำหน้าที่ซัพพอร์ตลูกค้าตั้งแต่ New Model ไปจนกระทั่งถึงกระบวนการ Mass Production และให้บริการหลังการขาย ประสานงานทั้ง Internal และ External ต่างๆ
พี่แนนเป็นศิษย์พี่โค้ชรุ่น Fall 2024 ที่สอบติดมหา'ลัยชั้นนำ และได้ทุนของไต้หวันเยอะที่สุดคนนึงเลยค่ะ ซึ่งนอกจากคณะนี้แล้ว พี่แนนก็ยังสอบติดหลายที่มาก ได้แก่
National Taiwan Normal University คณะ MBA (พร้อมทุนเรียนฟรี 100%)
National Dong Hua University คณะ International Business (ทุนเรียนฟรี 100% + เงินเดือน 6,000 NTD)
Chang Gung University คณะ MBA
National Ilan University คณะ MBA (ทุนเรียนฟรี 100% + เงินเดือน 8,000 NTD + หอพักฟรี)
National Central University คณะ MBA
Fu Jen Catholic University คณะ MBA
National Taipei University of Technology คณะ MBA (ทุนเรียนฟรี 100% + เงินเดือน 6,000 NTD)
Asia University คณะ MBA
National Yang Ming Chiao Tung University คณะ Technology Management (พร้อมทุนเรียนฟรี 100%)

พี่โค้ช: แนะนำคณะหน่อยจ้ะ เรียนอะไรกันบ้าง เค้าเน้น Sustainability Leadership สายไหน เพราะหลายๆ คนยังงงอยู่เลยว่าคณะนี้มันเรียนอะไรกัน
พี่แนน: หลายคนอาจจะยังงงๆ กับคำว่า Sustainability Leadership ว่าคืออะไร เรียนอะไร ทำงานแบบไหน?
งั้นมาทำความเข้าใจกันก่อน
Sustainability Leadership คือ ภาวะผู้นำแบบยั่งยืน คิดง่ายๆ เหมือนกับการเป็น "หัวหน้า" ที่เก่งรอบด้าน
มองการณ์ไกล: ไม่ใช่แค่สนใจผลกำไร แต่ต้องคิดถึงผลกระทบต่อคนอื่นและสิ่งแวดล้อมในระยะยาวด้วย
รับผิดชอบต่อสังคม: ทำธุรกิจแบบไม่เอาเปรียบใคร คำนึงถึงคนรุ่นหลัง เพราะโลกใบนี้เป็นของเราทุกคน เรามีความรับผิดชอบในการรักษาโลกใบนี้ด้วยกัน
ใส่ใจสิ่งแวดล้อม: ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดขยะ มลพิษ
สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ: พัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม
เรียนเกี่ยวกับอะไร?
เรียนรู้ปัญหา สาเหตุ ผลกระทบ ของเรื่องความยั่งยืนของทั่วโลก
ฝึกทักษะการเป็นผู้นำที่ดี คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา สื่อสาร
ลงลึกเรื่องสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม สิทธิมนุษยชน ฯลฯ
จบไปทำงานอะไร?
ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน
เจ้าของธุรกิจเพื่อสังคม
นักวิจัย นักวิชาการ
ที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน

พี่โค้ช: บรรยากาศของการเรียนเป็นยังไงบ้างจ้ะ ทั้งในคลาสที่เรียน และเพื่อนๆ ร่วมคลาสที่เราเจอ
พี่แนน: พี่เป็นรุ่นแรกของ College of Sustainability and Green Energy ซึ่งเป็น College น้องใหม่ล่าสุดของ
มหาลัยเลย College ของเราจะแบ่งออกเป็น 3 Programs นั่นคือ Sustainability Leadership, Sustainability in Decarbonization และ Sustainability in Green Energy // สาเหตุที่พี่เลือกโปรแกรม Sustainability Leadership เพราะว่าสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปต่อยอดับอาชีพในอนาคตได้ บรรยากาศของการเรียนคือเข้มข้นมากสุดๆ แตกต่างจากที่เราเรียนในไทยอย่างสิ้นเชิง ด้วยความที่พี่เรียนเอกภาษามาด้วย เลยรู้สึกว่าค่อนข้างปรับตัวเยอะ
.
ที่มหาลัยของเราจะเน้นงานวิจัย อ่าน Case study อ่าน Text บางวิชาหา Case study ที่น่าสนใจ แล้วอาจารย์จะให้เขียน Essay 20 หน้า และนำ Essayที่เราเขียนมา Present ให้เพื่อนๆ Discuss กันต่อในคลาส ซึ่งการ Present คือการย่อยข้อมูลให้กระชับ โดยอาจารย์จะให้เวลาในการ Present 4 นาทีโดยจะจับเวลา ต้องจบให้ลงในเวลาที่กำหนด ไม่งั้นจะโดนตัดคะแนน บางวิชาอาจารย์ก็จะให้ Text มาอ่านทุกสัปดาห์ โดย Text ที่อาจารย์ให้ อาจารย์จะเอาข้อมูลใน Text มา Discuss กัน ถ้าเราไม่อ่านมาก่อนหน้า เราก็จะไม่สามารถ Discuss กับเพื่อนได้เลย ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวอ่านTextที่อาจารย์ให้มาก่อนเสมอค่ะ ซึ่งการตรียมตัวก่อนการเรียนเสมอถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ในการเรียนที่นี่เพราะไม่งั้นเราจะคุยกับอาจารย์ในห้องไม่รู้เรื่อง ยิ่งความรู้รอบตัวที่มี การอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองการปกครองก็เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะ ฝั่งการเรียนที่เป็น Governance ค่ะ
.
พักเรื่องเครียดแล้วมาเม้ามอยกันเกี่ยวกับเพื่อนๆ ที่เรียนกันบ้างดีกว่า อย่างที่บอกว่าเป็นคณะน้องใหม่ เพราะฉะนั้นต่างชาติยังไม่เยอะสักเท่าไหร่ หลักๆ เลยก็จะมีเพื่อนชาว Indonesia กับ South Africa บางวิชาก็จะมีเพื่อนจาก France มาจอยด้วย เพื่อนส่วนใหญ่จะเป็นชาวไต้หวัน โดยในชั้นเราจะมีทั้งเด็กที่เรียนจบปริญญาตรีแล้วมาเรียนต่อโทเลย ซึ่งชาวไต้หวันรุ่นใหม่จะเป็นแบบนี้กัน แล้วก็มีผู้บริหารที่เป็นเจ้าของกิจการ เช่นเปิดบริษัท Consult เรื่อง Carbon Credit หรือเป็นเจ้าของบริษัท Trading ตัวกลางที่นำ Seller กับ Buyerมาซื้อขายแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ Carbon Credit หรือระดับผู้บริหารขององค์กรชั้นนำในไต้หวันเช่น Evergreen หรือ Suppiler ของ TSMC มาเรียนด้วย ซึ่งพี่ๆ เหล่านี้จะมีประสบการณ์เยอะมาก เวลาเรียนด้วยรู้สึกสบายใจเพราะพี่ๆ เขาจะตอบอาจารย์ตลอด // แล้วในบรรยากาศในชั้นเรียนคือดีมากๆ เพราะทุกคนช่วยกัน ไม่ได้แบบแข่งขันกัน มันเลยทำให้พี่ซึ่งเป็นเด็กไทยที่เราจะคุ้นชินกับการเรียนแต่ Lecture ไม่คุ้นเคยกับการที่ต้องมานั่ง Discuss ใดๆ จะตอบที่ก็มีความกล้าๆ กลัวๆ แต่พอเรียนกับพี่เพื่อนๆ ไม่ได้รู้สึกกดดันเลย มีแต่ความรู้สึกแบบ Happy ที่ได้เรียน แต่ตอนที่ต้อง Final Debate สู้กัน ก็เอาเป็นเอาตายต่างฝ่ายต่างไม่ยอมใครเหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปด้วยดี และพอเรียนจบก็เป็นเฮฮา สนุกสานเหมือนเดิม
.
ส่วนอาจารย์ที่สอน จะมีอาจารย์ประจำคณะ และอาจารย์ Part-time ที่สอนหลายๆ มหาวิทยาลัย เช่น NCCU หรือ NYCU มาสอนที่นี่ด้วยค่ะ

พี่โค้ช: ที่นี่ต้องทำ Thesis มั้ยคะ และต้องเริ่มทำช่วงเทอมไหน
พี่แนน: ต้องทำคะ เป็นวิชาบังคับเลย โดยเราต้องหาอาจารย์ที่ปรึกษาให้ได้ในปี 1 และจะเริ่มทำในปีที่ 2 ค่ะ
ปริญญาโทที่ไต้หวันจะเรียน 2 ปีค่ะ (ทั้งหมด 4 เทอม) ซึ่งตอนนี้เรียนเป็นแบบ Onsite 100% ค่ะ
พี่โค้ช: ถ้าได้ทุนแล้ว ทำยังไงถึงจะได้ต่อทุนในชั้นปีที่ 2 คะ
พี่แนน: ป.ตรีต้องมีคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 60 ค่ะ // ป.โทไม่ต่ำกว่า 70 และต้องผ่านอย่างน้อยหนึ่งรายวิชาภาษาจีนที่จัดสอนโดยศูนย์ภาษามหาวิทยาลัย NCU หรือมีใบรับรองความสามารถในการสื่อสารภาษาจีน // มหาลัยบังคับให้เราเรียนจีนด้วยนะคะอย่างน้อยต้องเรียน 1 เทอม ซึ่งสำหรับพี่มองว่าเรามาเรียนไต้หวัน อย่างน้อยถ้าสื่อสารภาษาจีนได้น่าจะเป้นประโยชน์ทั้งในชีวิตประจำวัน และเพิ่มValue เป็นทักษะหนึ่งที่ติดตัวเราไปด้วยค่ะ

พี่โค้ช: Expectation vs Reality ของเราต่อความเข้าใจเรื่อง “Sustainability Leadership” เป็นยังไงบ้าง พอมาเรียนแล้วเข้าใจอะไรชัดขึ้นมั้ย แล้ววางแผน career path ไว้ยังไงบ้าง
พี่แนน: การเรียนรู้เรื่อง "Sustainability Leadership" เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เลยนะคะ ก่อนเรียนกับหลังเรียนนี่เหมือนมองเห็นภาพกว้างขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอเล่า Expectation vs Reality แล้วก็แผนอนาคตคร่าว ๆ ให้ฟังนะคะ ^^
.
ก่อนเรียน (Expectation):
คิดว่า: ภาวะผู้นำเพื่อความยั่งยืน ก็คงเป็นเรื่องของการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน CSR อะไรประมาณนี้ อาจจะต้องเรียนรู้เรื่องพลังงานทดแทน การจัดการขยะ เศรษฐกิจหมุนเวียน
คาดหวังว่า: จะได้ความรู้เฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อม ได้ลงมือทำโปรเจกต์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมจริง ๆ ได้เครือข่ายเพื่อนๆ ที่สนใจเรื่องเดียวกัน
.
หลังเรียน (Reality):
สิ่งที่ได้: โอ้โห... มันกว้างกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ ไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว แต่มันคือการมองภาพรวมของ "ความยั่งยืน" ในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล มันคือการสร้างสมดุลระหว่างผลกำไร คน และโลกใบนี้
ความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น:
ความเชื่อมโยง: ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมด การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ต้องอาศัยความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ สังคม และกฎหมายด้วย
ภาวะผู้นำ: ผู้นำต้องมองการณ์ไกล คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเชิงระบบ สื่อสารเก่งและเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น
ความท้าทาย: โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว ความท้าทายด้านความยั่งยืนก็ซับซ้อนขึ้น ผู้นำต้องปรับตัวตลอดเวลา เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
สิ่งที่เกินความคาดหมาย: ได้เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ การเงิน การลงทุน นวัตกรรมเพื่อสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
.
ด้าน Career Path
ตอนนี้สนใจงาน เช่น Sustainability Consultant, ESG Analyst, CSR Manager ค่ะ อยากใช้ความรู้ที่เรียนมาช่วยองค์กรต่าง ๆ พัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม // การเรียนรู้เรื่องนี้ทำให้ตระหนักถึงบทบาทของตัวเองในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน และอยากเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้นค่ะ ^^

พี่โค้ช: เม้ามอยไลฟ์สไตล์ชีวิตในแคมปัส NCU หน่อยจ้าาาาา (เรื่องอาหาร เรื่องหอ เรื่อง facility ต่างๆ กิจกรรมของมหาลัย และการเดินทาง)
พี่แนน:
🍜 อาหารการกิน
ในมหาวิทยาลัย: โรงอาหารใน NCU มีหลากหลายโซนและเมนู ประมาณ 100 TWD ต่อมื้อ แถมยังมีคาเฟ่และร้านชานมไข่มุกอยู่หลายจุด
นอกมหาวิทยาลัย: แถวๆ รอบมหาวิทยาลัยมีร้านอาหารโลคอลเยอะมาก โดยเราสามารถเดินไปได้เพราะเชื่อมติดกับมหาลัย มี Zone Street food และ Zone Back door หรือจะไปเดินเล่นในตลาดกลางคืนที่ใกล้ ๆ (เช่น จงลี่ไนท์มาร์เก็ต) ก็ฟินเหมือนกัน
สำหรับสายทำอาหารทางเอง แนะนำให้ไปซื้อของสดตอนเช้าที่ตลาดตรง Jinhue ตรงนี้ขายของสดราคาดีนั่งรถบัสสาย 132 หรือ 133 ไปได้
🏠 ที่พัก
หอพักในมหาวิทยาลัย: หอพักใน NCU ส่วนใหญ่เป็นหอรวม มีทั้งห้องเดี่ยว ห้องคู่ หรือห้อง 4 คน สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เครื่องซักผ้า ห้องน้ำในตัว (บางหอ) และห้องครัวส่วนกลาง
ค่าเช่าหอถูกมาก (ประมาณ 6,000–15,000 TWD ต่อเทอม)
Tip: หอพักใหม่ ๆ จะเต็มเร็วมาก ต้องรีบสมัคร!
ที่พักนอกแคมปัส: รอบมหาวิทยาลัยมีอพาร์ตเมนต์ให้เช่าหลายแบบ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000–8,000 TWD/เดือน (ขึ้นอยู่กับขนาดและระยะทาง)
🏋️♀️ Facility และสิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องสมุดใหญ่: ห้องสมุดที่นี่มีทั้งหนังสือ ตำรา และที่นั่งอ่านแบบสงบ บรรยากาศดีมาก (แอร์เย็นด้วย!)
ศูนย์กีฬา: ฟิตเนส สนามบาส สนามฟุตบอล สระว่ายน้ำ และสนามเทนนิส แถมยังมีกลุ่มกีฬาให้เข้าร่วมเยอะมาก
Coworking Space: มีพื้นที่ให้นักศึกษาใช้นั่งทำงาน หรือประชุมงานกลุ่มแบบฟรี ๆ (บางที่มีปลั๊กไฟและ Wi-Fi )
ร้านสะดวกซื้อ: FamilyMart กับ 7-11 ในแคมปัสเปิดตลอด และบางสาขายังมีพื้นที่ให้นั่งทานอาหารได้ด้วย
🎉 กิจกรรมในมหาวิทยาลัย
มีชมรมเยอะมาก เช่น ชมรมดนตรี กีฬา ภาษา ศิลปะ ฯลฯ
มหาวิทยาลัยจัดงานเทศกาลใหญ่ ๆ เช่น งาน International Cultural Fair ที่ให้นักศึกษาต่างชาติออกบูธขายของ กิจกรรมเฟรชชี่ (Freshmen Welcome Party) และงานกีฬา (Sports Day)
ถ้าอยากอาสาสมัครหรือหาโอกาสทำกิจกรรมเพื่อสังคม NCU ก็มีกิจกรรมที่จัดร่วมกับชุมชนเยอะเลย
มหาลัยจะจัดกิจกรรมให้กับนักศึกษาต่างชาติให้ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ หรือมีกิจกรรมเช่นฝึกทำบะหมี่ร่วมกับนักเรียนมัธยมเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม หรือ พาไปมิวเซียมต่างๆ
🚴♀️ การเดินทาง
NCU อยู่ที่เมืองจงลี่ (Zhongli) ใกล้กับสถานีรถไฟ Taoyuan
มี Shuttle Bus วิ่งภายในแคมปัสฟรี!
เดินทางไปไทเปสะดวกมาก (ใช้รถไฟหรือ HSR) ใช้เวลาไม่เกิน 30–40 นาที
ถ้ามีจักรยาน จะสะดวกมากสำหรับการเดินทางในแคมปัส หรือเช่าสกู๊ตเตอร์ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักศึกษา
ชีวิตที่ NCU มีความบาลานซ์ระหว่างการเรียนและการใช้ชีวิต ตัวแคมปัสสงบ ธรรมชาติสวย อาหารหลากหลาย หอพักก็ถือว่าถูกเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ ถ้าชอบบรรยากาศแบบเงียบสงบบนเขา ส่วนค่าอาหารพี่มองว่าพอๆไทเปเพราะว่าเราอยู่บนเขาร้านค้าไม่ได้เยอะเท่าไทเปที่เราสามารถเลือกได้ มีช้อยเยอะกว่า แต่ถ้าบวกลบคูณหารค่าที่พักพี่มองว่ายังไงก็ประหยัดว่าไทเป ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมเรื่องไหน ทักมาได้น้า 😊
เรียนดี กิจกรรมเด่นต้อง 3 สาว 'แนน มายด์ เมย์' // ขอบคุณมากนะคะที่สร้างผลงานเด็กไทยไว้โดดเด่นมากๆ รุ่นน้องคนไทยสบายยยยแล้ววววววววว
College of Sustainability and Green Energy แห่ง National Central University นั้นเปิดรับต่างกัน ฉะนั้นน้องๆ ที่ต้องการยื่นใบสมัคร จะต้องวางแผนให้ดีนะคะ โดยที่ - เทอม Fall (เปิดเทอมใหญ่ เรียนกันยายน) จะเป็นครบทั้ง 3 โปรแกรม - เทอม Spring (เรียนกุมภาพันธ์) จะเปิดแค่โปรแกรม Sustainability in Decarbonization และ Sustainability in Green Energy เท่านั้นค่ะ (ข้อมูลอัพเดท ณ ปี 2025)
ติดตามรีวิววิชาที่เปิดสอนในคณะ Sustainability Leadership โดยพี่แนน อย่างละเอียด คลิ๊กที่นี่
#เรียนต่อขอทุนไต้หวัน กับทีมพี่โค้ชแห่ง Taiwan Scholarship Hunter ไม่มีผิดหวัง สถิติพาเด็กไทยเรียนต่อขอทุนไต้หวันกว่า 100 ทุนในระยะเวลา 2 ปี <3 // ติดต่อที่ไลน์ @twscholarhunter
Comments