top of page
ค้นหา

แจกเช็คลิสต์ เตรียมตัวสมัครเรียนต่อไต้หวันไม่ยากอย่างที่คิด



ในช่วงเตรียมสมัครเรียน ว่ากันว่าเป็นช่วงนักล่าที่นั่งเรียนและนักล่าทุนทั้งหลายเผชิญสภาวะ “หัวฟู” มากที่สุด

พี่โค้ชเลยมาแบ่งปัน Checklist หลัก ๆ ที่จำเป็นต้องมี เพื่อยื่นสมัครเรียนต่อขอทุน พร้อมขอฟ้าขอฝน!

พร้อมทริคเด็ดในแต่ละ Checklist ให้ง่ายเหมือนเสกคาถากรรมการ รัก กรรมการหลงเหมือนโดนของกัน

ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยในไต้หวัน จะมีเอกสารหลัก ๆ ที่ต้องเตรียม ดังนี้ (บางอันอาจมีขอเพิ่ม เน้นย้ำให้อ่านระเบียบการดี ๆ)




✅ Recommendation Letter


เป็นอันดับแรก ๆ ที่เตรียมขอล่วงหน้าได้เลย ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะใช้ 2 ฉบับ สำหรับปริญญาโท/ ปริญญาเอก แนะนำเป็น นายจ้างฉบับนึง และอาจารย์อีกฉบับนึง

หากเป็นน้อง ๆ จบใหม่ หรือเข้าเรียนระดับปริญญาตรี สามารถใช้จากครู/ อาจารย์ 2 ฉบับได้เลย

โดยเนื้อหา Recommendation Letter แนะนำให้แจ้งคนที่จะเขียนล่วงหน้า 6 เดือน เพราะไม่ใช่ทุกคนจะว่างเขียนให้เรา เพื่อคุณภาพของจดหมาย เผื่อเวลาให้เขาดีกว่า

Tips: ให้หาคนที่สนิทกับเราจริงๆ ในแง่ที่ว่าทำงานด้วยกัน รู้มือกัน หรือเป็นอาจารย์ที่รู้ว่าเราทำอะไรมาบ้าง พัฒนาตัวเองยังไง เพื่อที่เนื้อหาจะไม่น่าเบื่อ อย่าลืมว่ากรรมการไม่ได้อ่านของเราคนเดียวค่ะ กระเทย, เวลาติดต่อ แนะนำให้บอกเค้าว่าเราจะไปเรียนอะไร พร้อมแนบ resume ไปด้วย
จดหมายที่ดี ไม่ควรเก็บเกิน 6-8 เดือน เพื่อความสดใหม่ของเนื้อหาที่จะส่งเสริมตัวเราด้วย


✅ Study Plan หรือ SOP (Statement of proposal)


เป็นเอกสารที่ควรจะต้องแสดงความเป็นตัวเราให้ได้มากที่สุด และส่วนใหญ่ Study plan เรียนต่อไต้หวัน ไม่ควรเขียนยาวจนเกินไปหรือสั้นจนเกินไป


หัวข้อที่ควรเขียนมีดังนี้

Background ของเรา เรียนจบที่ไหน

ประสบการณ์ทำงาน ทำงานที่ไหน อย่างไรให้ละเอียด

เราอยากเรียนอะไร เพราะอะไร

Future plan ควรจะมีเป้าหมายชัดเจน


สิ่งที่ควรระวังในการเขียน Study plan
  • อ่าน requirement ดี ๆ ว่าคณะที่เราเข้า มีคำถามให้เขียน SOP มั้ย

  • หากไม่มี Format เขียนเรียงดี ๆ อ่านทวนหลาย ๆ รอบว่าเขียน Move on เป็นวงกลมมั้ย

  • ระวังเรื่อง Grammar ไม่ใช่ทุกคณะที่จะมั่ว Grammar แล้วเข้าไปได้ อย่าลืมว่ากรรมการเค้าเอาคนที่พร้อมที่สุดค่ะ

  • สามารถให้นักภาษาศาสตร์ตรวจทาน Study plan อีกครั้งได้จ้า

  • อย่าลืม !! จัดหน้าให้เรียบร้อย และใช้ font ที่อ่านง่ายสบายตา


โดยวิธีการเขียน Study plan ให้น่าสนใจ พร้อมคีย์เวิร์ดที่ตรงกับแต่ละมหาวิทยาลัยที่สนใจ สามารถปรึกษาทีมพี่โค้ชทาง TAIWAN SCHOLARSHIP HUNTER คลิกที่นี่


Resume ครีเอทและใส่รูปที่แสดงความเป็นตัวเราได้


✅ Resume / Autobiography

เป็นการเปิดหน้าต่างจั่วหัวแนะนำตัวเราให้โลกรู้ ทำไงให้เค้ารู้จักในมุมเราเด่น เราปังยังไง Resume สามารถออกแบบให้ Creative ได้ แต่ก็ต้องคุมความ Formal ส่วนสีจะโฉลกไหน เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใหญ่ Resume หรือ CV จะใช้ในสาย MBA และสายวิศวะฯ


ส่วน Autobiography เค้าให้เขียนบรรยายตัวเองล้วน ๆ เราก็ต้องจัดให้เรียบร้อย โดยจะมีประวัติส่วนตัว ผลงานที่ผ่านมา และสิ่งที่เราอยากทำ ไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษ​ พร้อมตรวจความถูกต้องของ Grammar ด้วยน๊า



ตารางเปรียบเทียบคะแนน TOEIC กับ CEFR Levels


✅ ผลสอบวัดระดับภาษา

มหาวิทยาลัยในไต้หวัน จะสามารถใช้คะแนนภาษาได้ทั้ง TOEIC, TOEFL, IELTS โดยเทียบกระดานค่ากลาง CEFR Level ส่วนใหญ่อยู่ที่ CEFR Level B2 หรือ TOEIC 750 หรือ 780 ขึ้นไป (ดูตารางเทียบคะแนนภาษา คลิกที่นี่)


ส่วนภาคภาษาจีน หรือสายการสอนภาษาจีนต้อง submit คะแนนภาษาจีน

บางที่ให้ยื่น HSK บางที่ต้องยื่น TOCFL ศึกษาดี ๆ ตอนเตรียมด้วยน๊า


✅ Transcript/ Diploma

ใครยังเรียนไม่จบ ให้อ่าน Requirement ดี ๆ ว่าเทอมนี้ status ของเจ้า transcript เราจะเป็นแบบ closed เดือนไหน ไม่งั้นดีใจเก้อนะ (มันมีมาแล้วนะ รับแล้ว สรุปตุ้บที่ transcript closed ไม่ทัน เศร้านะแม่นะ)

ต้องเป็นภาษาอังกฤษหรือจีนเท่านั้น !!! กรรมการอ่านไทยไม่ออกน๊า อย่าส่งไปผิดฉบับ มันเคยมีมาแล้วนะ


✅ Portfolio

ไม่จำกัดรูปแบบ ยิ่งใครสมัครสายสถาปัตย์ หรือสาย Design ควรมีเพื่อให้เห็นผลงาน


✅ รูปถ่าย

โดยรูปถ่ายขอเป็นรูปหน้าตรง เห็นใบหู โครงหน้าชัดเจน ไม่จำกัดสีเสื้อ แต่ถ้าให้ครอบคลุม รูปถ่ายพื้นหลังขาว จนถึงตอนยื่นวีซ่าเลย

โดยส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยไต้หวัน ไม่ซีเรียสมาก แต่รูปที่เรายื่นสมัครจะไปขึ้นบนบัตรนักเรียนเราในอนาคตค่ะ


✅ เอกสารส่วนตัวอื่น ๆ

Passport/ ARC (ในกรณีอยู่ไต้หวันอยู่แล้ว) ดูเรื่องวันหมดอายุให้ดี ๆ ส่วนใหญ่ Passport ให้มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป แต่ทางที่ดีเอาให้ครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดที่เราไปเรียน ยิ่งดี!!! เพราะหากมาอยู่ไต้หวันแล้ว หาก passport หมดอายุ = ARC ที่เราถือตอนเรียนจะหมดอายุจ้า

ใบสมัครมหาวิทยาลัย (บางที่ก็มี บางที่ก็ Submit ใบสมัครในระบบ)


✅ Financial Statement

สามารถขอไว้ล่วงหน้าได้เลย โดย Statement 1 ฉบับ สามารถใช้ได้ประมาณ 3-6 เดือน โดยให้ผู้ปกครองรับรองเอกสารได้ โดยแสดงยอดเงินคงเหลือประมาณ 180,000 บาท


TIPS: ถ้าใครสมัครหลายมหาวิทยาลัย แนะนำให้ทำ Checklist พร้อม Deadline แต่ละมหาวิทยาลัยรอไว้ อันไหนเสร็จ กด Save แล้วอย่าลืมกลับมา Submit เด้ออออออ (เคยมีเพื่อนไม่ยอมกลับมา Submit จนเลยเดตไลน์ ยื่นใหม่เทอมหน้าทั้งน้ำตา)

งานเอกสารเนี่ย ฟังดูเหมือนจะหัวฟู หัวหยุม แต่เชื่อเถอะ มันก็วน ๆ อยู่ไม่กี่อย่างแหละ

ตาลายครั้งเดียว ใช้ได้ตลอดไป 5555


อยากเรียนต่อขอทุนไต้หวัน แต่ไม่รู้ว่าจะเตรียมยังไงให้ขายตัวเองได้

ทักทีมนักเรียนทุนไต้หวัน พร้อมเตรียมตัวสอบเข้าแบบ Insight แน่น โอกาสลุ้นทุนสูง

Inbox Facebook Taiwan Scholarship Hunter หนูอยากเป็นนักเรียนทุนไต้หวัน

คลิก Add Line @twscholarhunter คลิกเพื่อแอดไลน์

Comments

Couldn’t Load Comments
It looks like there was a technical problem. Try reconnecting or refreshing the page.
bottom of page