แจกเช็คลิสต์ เตรียมตัวสมัครเรียนต่อไต้หวันไม่ยากอย่างที่คิด
- Taiwan Scholarship Hunter Official
- 18 ส.ค. 2566
- ยาว 2 นาที

ในช่วงเตรียมสมัครเรียน ว่ากันว่าเป็นช่วงนักล่าที่นั่งเรียนและนักล่าทุนทั้งหลายเผชิญสภาวะ “หัวฟู” มากที่สุด
พี่โค้ชเลยมาแบ่งปัน Checklist หลัก ๆ ที่จำเป็นต้องมี เพื่อยื่นสมัครเรียนต่อขอทุน พร้อมขอฟ้าขอฝน!
พร้อมทริคเด็ดในแต่ละ Checklist ให้ง่ายเหมือนเสกคาถากรรมการ รัก กรรมการหลงเหมือนโดนของกัน
ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยในไต้หวัน จะมีเอกสารหลัก ๆ ที่ต้องเตรียม ดังนี้ (บางอันอาจมีขอเพิ่ม เน้นย้ำให้อ่านระเบียบการดี ๆ)

✅ Recommendation Letter
เป็นอันดับแรก ๆ ที่เตรียมขอล่วงหน้าได้เลย ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะใช้ 2 ฉบับ สำหรับปริญญาโท/ ปริญญาเอก แนะนำเป็น นายจ้างฉบับนึง และอาจารย์อีกฉบับนึง
หากเป็นน้อง ๆ จบใหม่ หรือเข้าเรียนระดับปริญญาตรี สามารถใช้จากครู/ อาจารย์ 2 ฉบับได้เลย
โดยเนื้อหา Recommendation Letter แนะนำให้แจ้งคนที่จะเขียนล่วงหน้า 6 เดือน เพราะไม่ใช่ทุกคนจะว่างเขียนให้เรา เพื่อคุณภาพของจดหมาย เผื่อเวลาให้เขาดีกว่า
Tips: ให้หาคนที่สนิทกับเราจริงๆ ในแง่ที่ว่าทำงานด้วยกัน รู้มือกัน หรือเป็นอาจารย์ที่รู้ว่าเราทำอะไรมาบ้าง พัฒนาตัวเองยังไง เพื่อที่เนื้อหาจะไม่น่าเบื่อ อย่าลืมว่ากรรมการไม่ได้อ่านของเราคนเดียวค่ะ กระเทย, เวลาติดต่อ แนะนำให้บอกเค้าว่าเราจะไปเรียนอะไร พร้อมแนบ resume ไปด้วย
จดหมายที่ดี ไม่ควรเก็บเกิน 6-8 เดือน เพื่อความสดใหม่ของเนื้อหาที่จะส่งเสริมตัวเราด้วย

✅ Study Plan หรือ SOP (Statement of proposal)
เป็นเอกสารที่ควรจะต้องแสดงความเป็นตัวเราให้ได้มากที่สุด และส่วนใหญ่ Study plan เรียนต่อไต้หวัน ไม่ควรเขียนยาวจนเกินไปหรือสั้นจนเกินไป
หัวข้อที่ควรเขียนมีดังนี้
Background ของเรา เรียนจบที่ไหน
ประสบการณ์ทำงาน ทำงานที่ไหน อย่างไรให้ละเอียด
เราอยากเรียนอะไร เพราะอะไร
Future plan ควรจะมีเป้าหมายชัดเจน
สิ่งที่ควรระวังในการเขียน Study plan
อ่าน requirement ดี ๆ ว่าคณะที่เราเข้า มีคำถามให้เขียน SOP มั้ย
หากไม่มี Format เขียนเรียงดี ๆ อ่านทวนหลาย ๆ รอบว่าเขียน Move on เป็นวงกลมมั้ย
ระวังเรื่อง Grammar ไม่ใช่ทุกคณะที่จะมั่ว Grammar แล้วเข้าไปได้ อย่าลืมว่ากรรมการเค้าเอาคนที่พร้อมที่สุดค่ะ
สามารถให้นักภาษาศาสตร์ตรวจทาน Study plan อีกครั้งได้จ้า
อย่าลืม !! จัดหน้าให้เรียบร้อย และใช้ font ที่อ่านง่ายสบายตา
โดยวิธีการเขียน Study plan ให้น่าสนใจ พร้อมคีย์เวิร์ดที่ตรงกับแต่ละมหาวิทยาลัยที่สนใจ สามารถปรึกษาทีมพี่โค้ชทาง TAIWAN SCHOLARSHIP HUNTER คลิกที่นี่

Resume ครีเอทและใส่รูปที่แสดงความเป็นตัวเราได้
✅ Resume / Autobiography
เป็นการเปิดหน้าต่างจั่วหัวแนะนำตัวเราให้โลกรู้ ทำไงให้เค้ารู้จักในมุมเราเด่น เราปังยังไง Resume สามารถออกแบบให้ Creative ได้ แต่ก็ต้องคุมความ Formal ส่วนสีจะโฉลกไหน เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใหญ่ Resume หรือ CV จะใช้ในสาย MBA และสายวิศวะฯ
ส่วน Autobiography เค้าให้เขียนบรรยายตัวเองล้วน ๆ เราก็ต้องจัดให้เรียบร้อย โดยจะมีประวัติส่วนตัว ผลงานที่ผ่านมา และสิ่งที่เราอยากทำ ไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษ พร้อมตรวจความถูกต้องของ Grammar ด้วยน๊า

ตารางเปรียบเทียบคะแนน TOEIC กับ CEFR Levels
✅ ผลสอบวัดระดับภาษา
มหาวิทยาลัยในไต้หวัน จะสามารถใช้คะแนนภาษาได้ทั้ง TOEIC, TOEFL, IELTS โดยเทียบกระดานค่ากลาง CEFR Level ส่วนใหญ่อยู่ที่ CEFR Level B2 หรือ TOEIC 750 หรือ 780 ขึ้นไป (ดูตารางเทียบคะแนนภาษา คลิกที่นี่)
ส่วนภาคภาษาจีน หรือสายการสอนภาษาจีนต้อง submit คะแนนภาษาจีน
บางที่ให้ยื่น HSK บางที่ต้องยื่น TOCFL ศึกษาดี ๆ ตอนเตรียมด้วยน๊า
✅ Transcript/ Diploma
ใครยังเรียนไม่จบ ให้อ่าน Requirement ดี ๆ ว่าเทอมนี้ status ของเจ้า transcript เราจะเป็นแบบ closed เดือนไหน ไม่งั้นดีใจเก้อนะ (มันมีมาแล้วนะ รับแล้ว สรุปตุ้บที่ transcript closed ไม่ทัน เศร้านะแม่นะ)
ต้องเป็นภาษาอังกฤษหรือจีนเท่านั้น !!! กรรมการอ่านไทยไม่ออกน๊า อย่าส่งไปผิดฉบับ มันเคยมีมาแล้วนะ
✅ Portfolio
ไม่จำกัดรูปแบบ ยิ่งใครสมัครสายสถาปัตย์ หรือสาย Design ควรมีเพื่อให้เห็นผลงาน
✅ รูปถ่าย
โดยรูปถ่ายขอเป็นรูปหน้าตรง เห็นใบหู โครงหน้าชัดเจน ไม่จำกัดสีเสื้อ แต่ถ้าให้ครอบคลุม รูปถ่ายพื้นหลังขาว จนถึงตอนยื่นวีซ่าเลย
โดยส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยไต้หวัน ไม่ซีเรียสมาก แต่รูปที่เรายื่นสมัครจะไปขึ้นบนบัตรนักเรียนเราในอนาคตค่ะ
✅ เอกสารส่วนตัวอื่น ๆ
Passport/ ARC (ในกรณีอยู่ไต้หวันอยู่แล้ว) ดูเรื่องวันหมดอายุให้ดี ๆ ส่วนใหญ่ Passport ให้มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป แต่ทางที่ดีเอาให้ครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดที่เราไปเรียน ยิ่งดี!!! เพราะหากมาอยู่ไต้หวันแล้ว หาก passport หมดอายุ = ARC ที่เราถือตอนเรียนจะหมดอายุจ้า
ใบสมัครมหาวิทยาลัย (บางที่ก็มี บางที่ก็ Submit ใบสมัครในระบบ)
✅ Financial Statement
สามารถขอไว้ล่วงหน้าได้เลย โดย Statement 1 ฉบับ สามารถใช้ได้ประมาณ 3-6 เดือน โดยให้ผู้ปกครองรับรองเอกสารได้ โดยแสดงยอดเงินคงเหลือประมาณ 180,000 บาท
TIPS: ถ้าใครสมัครหลายมหาวิทยาลัย แนะนำให้ทำ Checklist พร้อม Deadline แต่ละมหาวิทยาลัยรอไว้ อันไหนเสร็จ กด Save แล้วอย่าลืมกลับมา Submit เด้ออออออ (เคยมีเพื่อนไม่ยอมกลับมา Submit จนเลยเดตไลน์ ยื่นใหม่เทอมหน้าทั้งน้ำตา)
งานเอกสารเนี่ย ฟังดูเหมือนจะหัวฟู หัวหยุม แต่เชื่อเถอะ มันก็วน ๆ อยู่ไม่กี่อย่างแหละ
ตาลายครั้งเดียว ใช้ได้ตลอดไป 5555
อยากเรียนต่อขอทุนไต้หวัน แต่ไม่รู้ว่าจะเตรียมยังไงให้ขายตัวเองได้
ทักทีมนักเรียนทุนไต้หวัน พร้อมเตรียมตัวสอบเข้าแบบ Insight แน่น โอกาสลุ้นทุนสูง
Inbox Facebook Taiwan Scholarship Hunter หนูอยากเป็นนักเรียนทุนไต้หวัน
คลิก Add Line @twscholarhunter คลิกเพื่อแอดไลน์
Comments