top of page
1.png

รีวิวคณะ และชีวิตในไต้หวันโดยศิษย์เก่า

2.png

พี่โค้ชแนะนำคณะ

3.png

เรียนภาษาจีนที่ไต้หวัน

4.png

รีวิวชีวิตทำงานในไต้หวัน

TW Career Hunter | คุยกับ 'พี่ฟอร์ส' นักเรียนทุนไต้หวันคนแรกของพี่โค้ช แชร์ประสบการณ์ชีวิตการหางาน / ทำงานในไต้หวันฉบับคนจบ IMBA แบบไม่อวย ไม่จกตา

  • รูปภาพนักเขียน: Taiwan Scholarship Hunter Official
    Taiwan Scholarship Hunter Official
  • 7 ต.ค.
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ree


Q1:  สวัสดีค่า  ก่อนอื่นแนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักหน่อยน้าาาา


พี่ฟอร์ส:  สวัสดีค่าชื่อฟอร์สนะคะ ฟอร์สพึ่งจบโทจาก คณะ IMBA ที่ Asia University ตอนเรียนตรีฟอร์สจบเอแบค จบตรีแล้วฟอร์สยังไม่ได้ทำงานค่ะ จบแล้วมาเรียนโทต่อรัวๆ เลย


Q2: ย้อนความหลังกันหน่อย ทำไมตอนนั้นปักธงว่าจะมาไต้หวัน


พี่ฟอร์ส: จริงๆ ฟอร์สอ่ะ วางแผนกับเพื่อนว่าจะไปเรียนภาษาที่ประเทศจีนกับเพื่อน แต่ตอนนั้นอ่ะ มันมีโควิดมาพอดีแล้วทางจีนเค้าปิดประเทศยาวเลย เพื่อนก็เลยแนะนำว่าเออลองสมัครต่อโท MBA ที่ไต้หวันดูมั้ย ก็เลยเออแหะน่าสนอยู่นะ เพราะถ้าเรามาเรียนที่ไต้หวันอ่ะ ยังไงมันก็ต้องได้ภาษาไปในตัวอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างไต้หวันแจกทุนเยอะด้วยค่ะ ก็เลยลองหาข้อมูล หาเอเจนซี่เพื่อจะมาไต้หวันค่ะ


Q3: แล้วตอนนั้นหนูมาเรียนที่ไหนน้าาา เม้ามหา'ลัยตัวเองหน่อย


พี่ฟอร์ส : ตอนนั้นฟอร์สมาเรียนที่ Asia University ค่ะ อยู่ที่เมืองไถ่จง ใกล้ๆ กับไทเปค่ะ ซึ่งมหา'ลัยฟอร์สอ่ะเป็นที่ขึ้นชื่อกันในหมู่คนไต้หวันค่ะว่า แคมปัสสวยมาก ซึ่งก็ยอมรับนะว่าสวยจริง 55555

.

แต่คือแคมปัสมันอาจจะไกลจากตัวเมืองหน่อยนะ แต่สวยจริงค่ะคอนเฟิร์ม ส่วนเรื่องเพื่อนๆ ที่เจอก็น่ารักมากๆ นะคะ

ฟอร์สมีเพื่อนเป็นต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ค่ะ Majority หลักๆ ก็อาเซียนร่วมใจอินโด เวียดนามอันนี้ขาดไม่ได้ 5555 ซึ่งเวลาหลังเลิกเรียนก็นัดตี้ชาบูกันค่ะ เพราะที่ไถ่จงเนี่ยเค้าขึ้นชื่อเรื่องชาบู อร่อยทุกร้านค่ะ ไม่ต้องเลือกเลย

.

แต่ตอนอยู่หออ่ะ ฟอร์สอยู่หอใน ไม่ค่อยจอยเท่าไหร่นะ เพราะเตียงมันสูงอ่ะหนูกลัวตก ตอนเทอม 2 ก็เลยย้ายออกมาอยู่หอนอก ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวก็จอยๆ มีพิพิธภัณฑ์ มี Night Market ต่างๆ ซึ่งการเดินทางก็สะดวกนะคะ นั่งบัสกันเพลิน


Q4:  ชีวิตใน Asia University เป็นไงบ้างลูก


พี่ฟอร์ส: รู้สึกว่าชีวิตที่ Asia University ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่หวือหวาเลยค่ะ เหมือนได้มา Detox ชีวิตเลยอ่ะ ชีวิตคือเรียน ไปกินชาบูกับเพื่อน ไปเที่ยวนิดๆ หน่อยๆ กลับหอ วนอยู่แค่นี้แต่มีความสุขนะคะ ด้วยบรรยากาศมันน่าอยู่อ่ะ มันเลยทำให้เป็น 2 ปีในชีวิตที่สงบมากๆ


Q5:  รีวิวคณะให้ฟังหน่อยสิ


พี่ฟอร์ส:   ฟอร์สมาเรียน IMBA นะคะ ซึ่งเพื่อนเนี้ย International มากๆ คือมากจากทุกมุมโลก อ่ะเมื่อกี้บอกไปแล้วว่าเป็นอินโดฯ เวียดนาม นอกจากนั้นก็พวกคนยุโรปค่ะอารมณ์ฝรั่งเศส อิตาลีอะไรพวกนี้มีมาหมดค่ะ

.

การเรียนส่วนใหญ่ก็เน้นอ่าน Paper ค่ะแล้วเอามา Discuss กันตามปกติของ MBA เลย มีทำ Presentation ฉ่ำๆ ช่วงกลางภาค ปลายภาคค่ะ และถ้าถามว่าวิชาเด็ดของคณะนี้คืออะไร เอาจริงก็เด็ดหมด แต่วิชาที่ทุกคนแนะนำให้ลง คงจะเป็น Statistics ค่ะ เพราะอาจารย์ใจดี สอนแล้วเข้าใจ ไม่เบียวเลข 55555

.

แอบบอกว่าที่ Asia University เน้นทำ Research ค่ะ ใครสายนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน ซึ่งทางคณะมีตัว Research Methodology ให้ลงด้วยค่ะ ส่วนตัวคิดว่ายาก แต่มันก็มีประโยชน์มากๆ ค่ะ อาจารย์เค้าจะสอนตั้งแต่การหาเปเปอร์เลย สอนการอ่าน Paper การเขียนเชิงวิชาการ การทำ Data Analysis ฯลฯ ก็คือเรียนจบวิชานี้คือสามารถทำ Academic Research ได้เลยค่ะ


"สำหรับใครที่อยากได้ทุน แนะนำให้ติดต่อพี่ๆ Taiwan Scholarship Hunter เลยค่ะ เพราะพี่ๆ แนะนำทุกขั้นตอนและช่วยเช็ค Study Plan อย่างดี ฟอร์สเองก็ได้ทุนเพราะพี่ๆ เก่งมากค่ะ"

Q6: แล้วตอนนี้ฟอร์สเรียนจบแล้ว หนูวางแผนชีวิตยังไงต่อจ้ะ


พี่ฟอร์ส: แพลนของหนูคร่าวๆ ก็คือเรียนภาษาจีน 1 ปีค่ะ จากนั้นจะหางานในไต้หวันทำ แต่ใดใดคือตอนนี้ดันได้งานก่อนที่จะเรียนภาษาจบค่ะ ซึ่งตอนนี้ฟอร์สทำงานอยู่แถวๆ Neihu นะคะอยู่ในไทเปค่ะ ทำบริษัทไต้หวันนี่แหละ แต่ทั้งทีมเป็นคนไทยค่ะ 55555 ส่วนเพื่อนๆ ฟอร์สก็มีจำนวนนึงที่กลับไทยเลย อีกครึ่งก็ทำงานต่อในไทเปบ้าง ในไถ่จงบ้างแล้วแต่ว่าใครจะได้งานที่ไหนค่ะ ส่วนเพื่อนสนิทฟอร์สย้ายมาไทเปค่ะ เพราะเค้าได้ทุนเรียนปริญญาเอกต่อ ก็เลยยาวไปเลยค่ะ


หากเรียนจบปริญญาที่ไต้หวันแล้ว สามารถทำ "Job Seeking Visa" ต่ออายุไปได้อีก 2 ปี

Q7:   เม้าประสบการณ์การหางานในไต้หวันหน่อยสิ


พี่ฟอร์ส: ตอนนั้นจำได้ว่าเรียนภาษาจีนไปได้เดือนที่ 2 ค่ะ แล้วเพื่อนก็ชวนไปสมัครงาน ก็สมัครๆ ไป แล้วทีนี้ก็โดนเรียกสัมภาษณ์ออนไลน์ในหลายๆ ที่ค่ะ ส่วนตัวคิดว่าที่โดนเรียกเร็วเพราะเรียนจบปริญญาในไต้หวันด้วย เหมือนมันมีสถาบันในไต้หวันดันให้ประวัติเรามันดูโดดเด่นกว่าคนที่ไม่จบจากไต้หวันค่ะ

.

ฟอร์สไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมาก แต่ถ้าจะให้ฝากอะไรถึงคนที่อยากหางานในไต้หวันก็คงเป็น 'ทักษะภาษาจีน' ค่ะ มันจำเป็นมากค่ะ คือฟอร์สอ่ะพึ่งเรียนไปได้แค่ 2 เดือนมันพึ่งจะแบบฟังกะอ่านออกนิดหน่อย ไม่ได้เก่งอะไร มันเลยทำให้เวลาไปสัมฯ ก็มีตุ้บเยอะค่ะ ทางคนที่สัมภาษณ์เราเค้าก็แจ้งว่าติดเรื่องภาษาจีนนี่แหละค่ะ เพราะฉะนั้นตอบตรงนี้ค่ะ การที่ไม่ค่อยได้ภาษาจีนแล้วจะทำงานในไต้หวันค่อนข้างเป็นอุปสรรคมากค่ะในสายงานด้านบริหาร หรือการตลาด

.

ถ้าถามว่ารอเรียกสัมฯ นานมั้ย ก็ต้องบอกว่าไม่นานค่ะ เพราะบริษัทในหลายๆ ที่เค้าต้องการคนไทยมาทำทีม Thailand Market ค่ะ หลายๆ ที่เค้าขยายธุรกิจ กะต้องการลุยตลาดที่ไทยค่ะ เลยทำให้การที่เราเป็นคนไทย ได้ภาษาไทยยังได้เปรียบตรงนี้อยู่บ้าง แต่แนะนำนะคะสำหรับคนที่อยากทำงานต่อในไต้หวัน ยังไงก็ต้องเรียนภาษาจีนให้คล่องค่ะ

ไต้หวันมีนโยบาย 'New South Bound' ซึ่งเน้นการลงทุน ขยายธุรกิจมาแถบ SEA ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย เลยทำให้มหาวิทยาลัยในไต้หวันมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนไทย และประเทศอื่นๆ ใน SEA และหลายๆ บริษัทในไต้หวันต้องการพนักงานที่เป็นคนไทยเพื่อลุยตลาดไทยจ้ะ


Q8: ฟอร์สคิดว่าตลาดงานสำหรับคนในไทยไต้หวันเป็นยังไง ถ้าเทียบกับที่ไทยตอนนี้


พี่ฟอร์ส:  ถ้าถามฟอร์ส ฟอร์สคิดว่างานสายบริหาร สายการตลาดในไต้หวันค่อนข้างต่างจากที่ไทยพอสมควรนะคะ รู้สึกว่าสายงานนี้ที่ไทยมันหลากหลายแล้วก็คึกคักกว่า อาจจะเพราะที่นี่การตลาดเค้าไม่บู๊มากด้วย เลยคิดว่าแอบหายากอยู่นะในฐานะของคนที่ไม่ได้ภาษาจีน ถ้าได้จีนคงได้ทำอะไรมากขึ้นค่ะ


Q9:  ช่วง Transition ระหว่างการเป็นนักศึกษาต่างชาติ มาเป็นพนักงานประจำที่ไต้หวัน มันทำยังไงได้บ้าง


พี่ฟอร์ส:   ก็คือถ้าจะอยู่ต่อเนี่ย เราจะต้องไปเปลี่ยนประเภท ARC ที่ถืออยู่ภายใน 14 วันหลังเรียนจบค่ะ โดยที่จะต้องเอาใบจบจากมหา'ลัย ไปยื่นที่ Immigration Office แล้วแจ้งว่าต้องการเปลี่ยนเป็น ARC หางานค่ะ ซึ่งพอได้มาเนี่ยมันจะมีอายุ 1 ปีค่ะ จะเป็นปีต่อปีค่ะ ทีนี้พอได้งานปุ๊บ ปกติเนี้ยทางบริษัทจะเป็นคนยื่น Working Permit ให้นะคะ ยังไงแนะนำว่าให้ถามย้ำกับบริษัทด้วยตอนจะทำเอกสารพวกนี้ค่ะ ทีนี้เราก็ต้องเปลี่ยน ARC อีกรอบนึงเพื่อไปเป็น ARC คนทำงานค่ะ โดยขั้นตอนการทำเอกสารการทำงานทั้งหมดเนี่ยเกือบ 1 เดือนเห็นจะได้ค่ะ อ้อแล้ว ARC ทำงานมันจะส่งไปที่บริษัทที่เราทำงานนะ


บัตร ARC (Alien Resident Certificate) ของไต้หวันคือบัตรสำหรับชาวต่างชาติที่พำนักระยะยาว ใช้แทนบัตรประชาชนและไม่ต้องพกพาสปอร์ตตลอดเวลา สามารถใช้เปิดบัญชีธนาคาร สมัครซิมมือถือ ทำประกันสุขภาพ หรือเดินทางเข้าออกประเทศได้ ผู้ที่มักขอ ARC ได้แก่ นักเรียนต่างชาติ พนักงานที่มีใบอนุญาตทำงาน หรือคู่สมรสชาวไต้หวัน โดยบัตรจะมีอายุ 1–3 ปี และต้องต่ออายุภายใน 30 วันก่อนหมดอายุ

Q10:  ฝากอะไรถึงคนที่อยากมาเรียนแล้วทำงานที่ไต้หวันหน่อยจ้ะ


พี่ฟอร์ส:   จริงๆ คิดอะไรไม่ออกเริ่มที่มาปรึกษาพี่ๆ Taiwan Scholarship Hunter ได้เลยค่ะสำหรับเรื่องเรียน เพราะที่นี่เป๊ะจริงๆ พี่ๆ แนะนำดีมากเลยค่ะ ทุกวันนี้เรียนจบแล้วก็ยังเม้ามอยกับพี่โค้ชอยู่เลยค่ะ ไม่เคยทิ้งกัน พี่ๆ ก็ช่วยแนะนำที่เรียนภาษาจีนให้ด้วย พี่ๆ ดีมากจริงๆ ส่วนเรื่องการทำงานก็ยังย้ำค่ะว่า ไปจัดการทักษะภาษาจีนของตัวเองมาให้ดี เพราะแม้ว่าบริษัทต่างๆ ในไต้หวันพยายามที่จะ Internationalized แต่ยังไงก็เถอะ เราก็ต้องดีลกับคนไต้หวันทั้งในและนอกบออยู่ดี ซึ่งเค้าก็ใช้ภาษาจีนกันค่ะ



พี่โค้ชแนนไปส่งน้องฟอร์สไปเรียน สมัย Spring 2023
พี่โค้ชแนนไปส่งน้องฟอร์สไปเรียน สมัย Spring 2023
พี่โค้ชขอให้น้องฟอร์สได้ทำตามความฝันของตัวเองในไต้หวันอย่างมีความสุขในทุกๆ Step เลยนะคะ ดีใจทีไ่ด้รู้จักกันตั้งแต่ Day 1 ยันวันนี้เลย อยู่ด้วยกันไปยันแก่เลยนะฟอร์ส แล้วก็ขอบคุณด้วยที่เชื่อใจในทีมพี่โค้ช รักนะเจ้า 001 ลูกศิษย์คนแรกของฉัน :)


สามารถทักไลน์ @twscholarhunter หรือคลิกเพื่อแอดไลน์ เพื่อปรึกษากับพี่โค้ชฟรีก่อน และดูแพ็คเกจเรียนต่อขอทุนไต้หวัน คลิกเลย


bottom of page